Loading...
Loading...
เมื่อวานนี้ 13 ม.ค. เวลา 18.30 น. นางสมพิศ ตรัยจันทร์แดงและญาติ ๆ ได้นำศพ น.ส.สุภัคสรณ์ หรือหญิง พลไธสง สาวทอมเหยื่อในคดีดัง อุ้มฆ่าฝังดิน เดินทางกลับมายังวัดคลองอีแตก ต.โคกปี่ฆ้อง อ.เมือง จ.สระแก้ว เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดบ้านเกิดด้วยรถตู้ของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งและบรรยากาศที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจนั้นเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ญาติ ๆ ของสาวทอม พร้อมกลุ่มเพื่อนและชาวบ้านกว่า 100 คน ก็ได้มารอรับศพที่ศาลาวัดด้วย
นางสมพิศ และลูกชาย ผู้เป็นน้องชายของน้องหญิง กอดรูปพี่สาวและร่ำไห้ลงจากรถตู้เข้ามาภายในศาลาวัด ทางฝ่ายญาติ ๆ ต้องช่วยกันปลอบนางสมพิศ ที่ยังคงทำไจไม่ได้ และร่ำไห้คิดถึงลูกสาวอยู่ตลอดเวลา และผลการชันสูตรพลิกศพโดยทีมแพทย์สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ สันนิษฐานว่า สาเหตุที่ทำให้ น.ส.สุภัคสรณ์ เสียชีวิตเกิดจากการขาดอากาศหายใจ ซึ่งจากการตรวจสภาพศพพบรอยฟกช้ำเล็กน้อยบริเวณหน้าผาก ภายในกระเพาะอาหารพบเศษอาหารเพียงเล็กน้อย ส่วนบริเวณช่องคลอดและทวารหนักตรวจสอบไม่ได้ เนื่องจากศพเปลี่ยนสภาพไปจากเดิมมาก จึงใช้ก้านสำลีเก็บตัวอย่างเพื่อส่งห้องปฏิบัติการ ตรวจพิสูจน์ต่อไป
ขณะเดียวกันนายสวัสดิ์ ตรัยจันทรแดง อายุ 70 ปี ผู้เป็นตาของน้องหญิง ได้เปิดเผยว่า น้องหญิงนั้นเป็นเด็กดี เป็นคนที่คอยทำงานและส่งเงินมาให้ที่บ้าน ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าน้องหญิงนั้นจะต้องมาจบชีวิตลงแบบนี้ ตนนั้นอยากจะขอวอนผู้มีอำนาจ ช่วยทวงความยุติธรรมให้หลานตัวเองด้วย ขอให้ตำรวจจับคนร้ายได้ครบทั้งหมด ก่อนที่จะทำการเผาศพน้องหญิง ซึ่งศพจะตั้งสวดบำเพ็ญกุศลไว้ 3 คืน และในส่วนของข่าวที่บอกว่าน้องหญิงนั้นไปหลอกเอาเงินของคนอื่นมาเป็นล้าน ๆ ตนเชื่อว่าไม่มีทางเป็นความจริง เพราะในสมุดบัญชีของหลานสาวนั้น มีเพียงเงินที่น้องหญิงส่งมาให้แค่ 4-5 หมื่นเท่านั้นเองคดีของสาวทอมนี้เป็นเรื่องสะเทือนใจเป็นอย่างมากในสังคม จากกรณีที่ตำรวจนายหนึ่งซึ่งมีตำแหน่งเป็นถึงผู้กำกับ ได้สั่งอุ้มฆ่า น.ส.สุภัคสรณ์ พลไธสง อายุ 28 ปี หรือ “หญิง”เพราะหึงหวงแฟนสาวของตนเอง จนนำไปสู่การออกหมายจับ จับแก๊งอุ้มฆ่า สาวทอมหน้าตาดี บริเวณพื้นที่ สน.หนองค้างพลู พบผู้ต้องหาทั้งสิ้น 7 ราย และหนึ่งในนั้นมี พ.ต.อ.อำนวย พงษ์สวัสดิ์ อายุ 58 ปี ซึ่ง ผกก.สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี โดยข้อหาที่ถูกตั้งคือจ้างอุ้มวานฆ่า สาเหตุมาจากไม่พอใจที่ น.ส.สุภัคสรณ์ มาติดพันสาวที่ตัวเองชอบพอ ตามที่เป็นข่าวมาหลายวัน ล่าสุดสวดศพคืนแรกทุกคนในงานได้ยินเสียงร้องไห้ตอนพระสวดทั้งๆที่ไม่มีใครร้อง ทำเอารู้เลยว่าคนตายทรมานมากแค่ไหนก่อนสิ้นลมหายใจ
ทางด้านชุดสืบสวนเชื่อว่าห้องพักหลังหนึ่งในรีสอร์ท น่าจะเป็นจุดที่ น.ส.สุภัคสรณ์ เสียชีวิต เพราะจากการเก็บพยานหลักฐานภายในห้องของเจ้าหน้าที่สำนักพิสูจน์หลักฐานตำรวจภาค 7 พบรอยหยดเลือด นอกจากนี้ชุดสืบสวนยังคาดว่า ผู้ก่อเหตุน่าจะมีความรู้ด้านการทำลายหลักฐาน เพราะการถอดเสื้อผ้าเหยื่อ โดยนำร่างสภาพเปลือยฝังดิน หากระยะเวลานานและไม่สามารถค้นหาศพพบ ก็จะไม่ทราบว่าเป็นใคร ถึงแม้ว่าเหยื่อจะมีรอยสักตามร่างกาย แต่การย่อยสลายเสื่อมสภาพมันก็เป็นไปตามธรรมชาติ…
ยังไงก็ขอแสดงความเสียใจกับทางครอบครัวของ คุณสุภัคสรณ์ พลไธสง ด้วยนะคะ
